วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คุก 12 เดือน"เก่ง การุณ"ถีบ"สมเกียรติ" กลางสภาฯ

คุก 12 เดือน"เก่ง การุณ"ถีบ"สมเกียรติ" กลางสภาฯ
ศาลพิพากษาจำคุก การุณ โหสกุล ส.ส.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย 12 เดือน จากกรณีทำร้ายร่างกายนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กลางสภาฯ เมื่อปี 2551 โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
     ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาท ที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ฟ้องนายการุณ หรือ เก่ง โหสกุล ส.ส.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยในความผิดฐาน หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

     โดยโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 51 ระบุความผิดสรุปว่าเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 51 จำเลยได้ทำร้ายร่างกายโจทก์ด้วยการใช้เท้าถีบท้องน้อยโจทก์อย่างแรง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ที่รัฐสภา ต่อมาวันที่ 3 เม.ย.54 จำเลยได้ให้สัมภาษณ์หมิ่นประมาทโจทก์ต่อบุคคลที่สาม ทางสถานีวิทยุคลื่นเอฟเอ็ม ความถี่ 90.5 เมกกะเฮิร์ต และรายการสยามเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 โดยใช้ถ้อยคำหยาบคายต่าง ๆ นานา ทำนองว่า “จำเลยไม่ควรค่าไปแลกด้วยกับไอ้สมเกียรติ ไอ้นี่มันนักปลุกระดมฆ่า แต่จำเลยเป็นเพชรที่ต้องเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน ส่วนโจทก์มาจากพวกจ้องล้มล้างระบอบประชาธิปไตย มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร และข้อความอื่นซึ่งล้วนเป็นความเท็จ” โจทก์ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ขณะนั้น) และเป็นอาจารย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักนับหน้าถือตาของคนในสังคมต้องเสื่อมเสีย ชื่อเสียง ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย

     จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่าติชมโจทก์ด้วยความบริสุทธิ์ใจต้องการให้รู้สำนึกหน้าที่ความเป็น ส.ส. คดีนี้หลังจากศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับรับฟ้องไว้ พิจารณาเป็นคดีดำ อ.1462/2551 และสืบพยานโจทก์ - จำเลยเรื่อยมาจนแล้วเสร็จ

     ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยสมควรกล่าวถ้อยคำต่าง ๆ ตามความรู้สึกที่ดีของบุคคลทั่วไป มิใช่แกล้งเสียดสี ยั่วยุ่ มุ่งหมายให้เกิดความโกรธ เข้าใจ หรือใช้ถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งมิได้ติชมด้วยความบริสุทธิ์ใจดังที่จำเลยต่อสู้ที่ไม่มีน้ำหนักหักล้าง พยานหลักฐานโจทก์ได้ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมรวม 2 กระทง ให้จำคุกกระทงละ 6 เดือน รวม 12 เดือน และปรับกระทงละ 20,000 บาท รวม 40,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน และเมื่อคำนึงถึงอาชีพและสภาพความผิดแล้ว มีเหตุอันควรปรานี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ทั้งให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อใน นสพ.เดลินิวส์ ไทยรัฐ และมติชน เป็นเวลา 3 วัน โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา


ทีมข่าวอาชญากรรม

รายงาน

ข้อมูลจาก :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น